วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หากเรารักใครสักคนจงรักเขาให้มากกว่าเดิมไม่ว่าเขาจะรักเราหรือไม่



ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง..
มีเพื่อนต่างเพศอยู่คู่หนึ่ง เป็นเพื่อนที่รักกันมาก

ฝ่ายชายจะเดินไปส่งฝ่ายหญิงที่บ้านเสมอทุกวัน

เวลาผ่านไป จนทั้ง สองอยู่ มหาวิทยาลัย

ฝ่ายหญิงเริ่มไปแอบชอบ ผู้ชายคนนึง และได้ถามเพื่อนชายว่า

"นี่ เธอ ว่า เค้าเหมาะกับเราไหม"

"เค้าก้อ หล่อดีนะ นิสัยก็ดีด้วย "

"เหรอ! อืม อยากให้เค้ามานั่งอยู่ข้างๆ เราจังเลยเนอะ"

ต่อมาไม่นาน หญิงสาวก็ได้เป็นแฟน กับผู้ชายคนนั้นจริงๆ

วันนึงหญิงสาวบอกกับ เพื่อนชายของตนว่า

"นี่ เธอ ไม่ต้องมาส่งเราทุกวันแล้วแหละ ตอนนี้เค้าจะมาส่งเราแล้ว

เราไม่อยากให้ เค้าเข้าใจ ผิดน่ะ"

"อืม" ฝ่าย ชายตอบรับ และเขาก็ไม่ได้ไปส่งหญิงสาวอีก

ต่อมาหญิงสาวเกิดทะเลาะกับแฟน ของตน

จึงมาปรึกษาเพื่อนชาย

ว่า

"เธอ! เด๋ว นี้เขาไม่ค่อยสนใจเราเลยแหละ

เธอว่า... เราจะทำอย่างไร ดีหล่ะ!"

"ก้อ เธอ ยังรักเค้าอยู่หรือป่าวหล่ะ" ฝ่ายชายถาม

"ก้อรักสิ และก้อรักมากด้วย"

"ถ้าอย่างนั้น ก็มอบความรักให้เขาต่อไปสิ ก้อเธอรักเค้านี่หน่า"

"อืม ม" หญิงสาวทำตามคำแนะนำของเพื่อนชาย

หลังจากนั้น ... วันหนึ่ง

ระหว่างที่เพื่อนชายหนุ่ม เดินกลับบ้าน เค้าเห็นหญิงสาว

นั่งร้องไห้อยู่ข้างทาง

"เธอ เป็น อะไรหน่ะ ทำไมถึงร้องไห้ มีอะไรให้เราช่วยไหม"

"เค้าไม่ รักเราเลยหล่ะ เขาเปลี่ยนไป

เด๋วนี้เขาไม่เคยมาส่งเรา ที่บ้านเลย"

"แล้วเราจะ ช่วยอะไรเธอได้บ้างหล่ะ"

"ช่วยอยู่ กับเราซักพักได้ไหม?" หญิงสาวร้องขอ

ก้อได้ซิ! ทำไมจะไม่ได้หล่ะ

ทั้งสองได้นั่งอยู่ด้วยกัน โดยไม่พูดจาอะไรกันเลย

ในที่สุดหญิงสาวก็เอ่ย ขึ้นมาว่า

"เราควรจะ ทำอย่างไรดี เธอจะช่วยบอกเราได้ไหม

ว่าเราควรจะทำอย่างไร

ดี"

"เธอยังรัก..เขาอยู่หรือป่าวหล่ะ"

"รักสิ เรา รักเค้ามากเลย"

"แต่เค้า ไม่รักเราเลยนี่หน่า" หญิงสาวร้องไห้โฮ

"แต่เธอก็รัก..เขาไม่ใช่เหรอ"

และชายหนุ่มก็ไปส่งหญิงสาว ที่บ้านอย่างที่เคยทำมาแต่ก่อน

"ถ้า เมื่อไหร่...ก็ตาม

ที่เธออยากให้เรามาส่งเธอที่บ้าน อย่าลืมเรียกเรา นะ"

"อืม" และ หญิงสาวก็เดินขึ้นบ้านไป



ต่อมาวันหนึ่งชายหนุ่มได้ รับโทรศัพท์จากหญิงสาว

"เราไม่ไหวแล้ว ช่วยมารับเราที"

เสียงของหญิงสาวดูช่าง อ่อนล้า และหมดกำลัง

เธอกำลังร้องไห้อย่างฟูมฟายอยู่

ชายหนุ่มได้ไปหาเธอและพาเธอมาส่งบ้าน

เธอยังคงถามชายหนุ่มนั้น เหมือนที่เคยถามมา ...

"เราจะทำอย่างไรต่อไปดี"

เราไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว..ดูยังไง ๆ เขาก็เหมือนไม่ได้รักเราเลย

"แล้วเธอเลิก รักเค้าแล้วเหรอ"

"ป่าว! เรา ยังรักเค้ามาก เรายังรักเขาอยู่เหมือนเดิม"

"งั้นก็ เหมือนที่เราเคยพูดไว้

จงรักเขาต่อไป..แม้มันจะเจ็บบ้างก็ตาม

เพราะมันไม่สำคัญหรอกว่า เขาจะรักเธอไหม..? แต่ถ้าเธอยังรักเขา

เธอก็คงทำได้แค่เพียงรักเขา...และจงรักเขาให้มากกว่าเดิม

เพื่อแสดงให้เขารู้ว่าเธอรักเขามาก และก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

มีแต่เพิ่มมากขึ้น"

อือ ม..แล้วหญิงสาวก็เดินขึ้นบ้านไป
และในที่สุดวันที่เธอเรียนจบก็มาถึง

เพื่อนชายหนุ่มของเธอมาแสดงความยินดีกับเธอ

เธอรู้สึกแปลกใจมาก ที่เพื่อนชายหนุ่มของเธอ ยังเรียนไม่จบ

เธอถามเขาว่า ทำไม..?

ชายหนุ่มตอบว่า เขาขี้ เกียจไปหน่อย

ทำให้เขาต้องเรียนซ้ำวิชา หนึ่งจึงยังเรียนไม่จบ

หญิง สาวแปลกใจ เพราะตลอดมา ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนขยัน

แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ..

และต่อมาไม่นานแฟนของหญิงสาว ก็ได้มาขอเธอแต่งงาน

เนื่องด้วยเห็นถึงความรัก ที่หญิงสาวมีให้

หญิงสาวจึงได้ไปชวนเพื่อนชาย เพื่อให้มางานแต่งของเธอ

"เราไม่ว่างจริงๆ เราติดธุระน่ะ!

ขอโทษด้วยนะ"



เพื่อนชายตอบเธอด้วยน้ำ เสียงแผ่วเบา

หญิงสาวโกรธและเสียใจที่ เพื่อนชายไม่ยอมมางานแต่ง จึงวางหูกระแทกไป

แต่หญิงสาวก็ต้องประหลาดใจ เมื่อวันที่เธอแต่งงาน

ชายหนุ่มได้มาปรากฎตัวก่อนที่งาน แต่งจะจบลง

"ยินดีด้วย นะ เรามาแล้วหล่ะ"

หญิงสาวดีใจมากที่เห็นเพื่อนชาย ของเธอมา

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม

เธอรู้สึกมีความสุขมาก ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาไม่ได้

และเพื่อนชายก็พูดว่า เธอมีอะไรให้เราช่วยไหม..?

ยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม..

...........................

ต่อมาหญิงสาวก็มีความสุข กับชีวิตแต่งงานของเธอ

จนไม่มีเวลาได้ติดต่อกับเพื่อนชายอีกเลย

จนวันหนึ่งหญิงสาวได้ ทะเลาะกับสามีของตน

หญิงสาวไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงนึกถึงเพื่อนชายขึ้นมา

แม้ว่าหญิงสาวจะโทรไปหาเท่าไหร่?

ก็ไม่สามารถติดต่อกับชายหนุ่มคนนั้นได้เลย

เขาจึงโทรไปหาเพื่อนของชายหนุ่มคนนั้น

เพื่อนของชายหนุ่มเล่า ว่า ชายหนุ่มเป็นโรคร้าย เขาไม่สามารถไปไหนได้

ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล... มาร่วมหลายเดือนแล้ว

หญิงสาวตกใจมาก ถามว่า..เขาเป็นอะไร?

เพื่อนชายหนุ่มบอกว่า อาการเขากำเริบ เพราะวันที่ชายหนุ่มต้องมาผ่าตัด

ชายหนุ่มดัน ...หายตัว ไปเฉย ๆ โดยไม่มีใครรุ้

และเพื่อนของชายหนุ่ม ก็ยังบอกอีก ว่า ..."มันเป็นนิสัยเสียของมันหน่ะ

มันชอบหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ ในช่วงเวลาสำคัญๆ

คราวที่แล้วตอนสอบไล่ มันก็หายตัวไปจากห้องสอบเฉยเลย"

ไม่รู้มันหายไปไหน..ถามใคร ก็ไม่มีใครรู้

หญิงสาวตกใจมาก เลยขอที่อยู่ของโรงพยาบาลที่ชายหนุ่มรักษาตัว

หญิงสาวไปเยี่ยมชายหนุ่ม ที่โรงพยาบาล เมื่อเปิดประตูเข้าไป

ก็ต้อง ตกใจ ! ชายหนุ่มที่เคยดูแข็งแรง กับผอมซูบ ไม่มี แรง

เมื่อชายหนุ่มเห็นเธอก็ดีใจ ทักทาย

เธอเป็นการใหญ่

"เป็นอย่าง ไรมั่ง ไม่เจอกันตั้งนานเลยน่ะ"

หญิงสาวนิ่งเงียบซักพัก น้ำตาหญิงสาวก็ไหลออกมา

"อ้าวร้อง ไห้ทำไมหล่ะ เธอหน่ะ ไปทะเลาะกับแฟนมาอีกแล้วเหรอ

จะให้เราช่วยอะไรไหม...?

แต่เราก็คงจะแนะนำเธอ ได้เหมือนเดิมนะ"

หญิงสาวเข้าไปหาชายหนุ่ม แล้วก็บอกกับชายหนุ่มว่า



วันที่เธอ มารับเราเป็นวันสอบไล่เธอใช่ไหม..?"

ชายหนุ่มทำหน้าตกใจและไม่กล้าพูดอะไรทั้งสิ้น กลับนิ่งเงียบไป

หญิงสาวจึงพูด ต่อ...



"และวันที่ เธอต้องผ่าตัดใหญ่ เธอกลับมางานแต่งงานของเราใช่ไหม..?"

ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไร อีกแล้ว กลับนิ่งเงียบกว่าเดิม



หญิงสาวเข้าไปกอดชายหนุ่ม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ

"ตลอดเวลา เรารักแต่คนอื่น

มองแต่คนอื่นเรากลับไม่รู้เลยว่าเธอรักเรามากแค่ ไหน

เรารู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ ไม่ได้รักเธอมากกว่านี้"

ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มแล้วก็บอก

กับหญิงสาวด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า



"เราบอกเธอ แล้วไง..ถ้าเรารักใครสักคน เราก็ต้องรักเขาให้มากๆ

และมากขึ้นกว่าเดิม

มันไม่สำคัญหรอก..ว่าเขาจะรักเราหรือไม่

มันสำคัญแค่เพียงว่า..เรายังรักเธออยู่หรือเปล่า

แค่เราสามารถช่วยเธอได้ นั่นมันก็เป็นความสุขของเราแล้ว

ต่อให้เราจะเจ็บสักแค่ไหน..เราก็ยังรักเธอต่อไป

และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง..



หญิงสาวรู้สึกเสียใจมาก นั่งร้องไห้โฮ...อยู่ที่ตักของชายหนุ่ม



ชายหนุ่มจึงพูด... ขึ้น ว่า



"ถ้าเราหาย เมื่อไหร่... เราจะไปส่งเธอที่บ้านอีกนะ"


** ยังมีผู้ชายที่เป็นแบบนี้อยู่ในโลกอีกมั้ยเน้อ **


ขอบคุณวันเวลาที่ผ่านเลยไป

เขียนโดยครูฝน

1 ความคิดเห็น:

  1. ความสุขเราสร้างได้ด้วยตัวเราไม่ต้องรอความสุขที่คนอื่นหยิบยื่นให้

    ตอบลบ