วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555

ถ้าหาก 'ฉันตาย' : ฉันจะหลงรัก "ความตาย" ไหม?


การหมางใจกัน การโกรษแค้นกัน มันมาจากความเอาแต่ใจ
ไม่สนใจความรู้สึกของกัน 

บางครั้ง! ความมั่นใจ ความไว้ใจ มันเริ่งพังทะลาย ลงทุกวันๆ
ความรัก ความปรารถนาดีต่อกัน 
ย้อนกลับมาเป็นความเอาชนะกัน ไม่ย้อมที่จะถอย

เหตุผลของฉันนั่นถูกต้อง เธอนั่นแหล่ะผิด!
ทำไมเธอไม่คิดเหมือนฉัน ทำไมเธอทำกับฉันอย่างนี้ ทำไม..ๆๆ

นั่น...หรือ...คือ  "รัก"  ที่ให้กัน

ถ้าหากความรัก..คือการตายแม้ขณะที่มีลมหายใจอยู่
ลมหายใจเข้า-ออก ก็เปรียบดังเศษแก้ว ที่บาดจมูกทั้งหายใจเข้า-ออก
ชีวิตที่แสนสั้นนั่น ก็นับวันยิ่งเดินช้าๆๆๆ และเหลือน้อยลงทุกวันๆๆ อย่างไร้ความหมาย
บทกวี..ที่บอกถึงความตายนี้.. 
ขอให้ฉันได้ตาย อย่างสงบ.. 
ฉันจะรักและปรารถนาดีเช่นเดิม แม้กระทั่งฉันตาย และหมดลมหายใจ.

ความห่วยใย ปรารถนาดี มันจะล่องลอย ค่อยบอกกระซิบถามเธอ
ว่า.. "ฉันได้ตายไปแล้ว! เธอจะยังมีความสุขมากไหม? เธอมีอิสระที่ได้ทำตามใจมากแล้วใช่ไหม?"


ฉันหลงรัก "ความตาย"
เวลานอนไม่หลับ จะนึกแอบอิจฉาคนที่นอนตายอย่างสงบนิ่ง
นอนอย่างไม่รู้แล้วความสุข ความทุกข์ ... ไม่มีอีกแล้ว.
เขา : ไม่ต้องออกแรง ให้มีลมหายใจเข้า-ออก อีกแล้ว
เขา : คงหมดความกังวลนั่นอีกแล้ว นับจากวันตาย
เขา : จะรู้ไหมว่า! คนที่กำลังพยายามฆ่าตัวตาย เป็นรุ่นน้องของเขาอีกหลายต่อหลายคน ต้องได้รับความเจ็บปวดทั้งกาย-ใจ ตอนที่เขากำลังจะตาย
เขา : นอนสงบ สบายไหม?
เขา : จะได้ขึ้นสวรรค์ หรือลงนรก ตามผลกรรมที่พรุพุทธเจ้าเคยสอนไวจริงไหม? ถ้าหากเขานับถือศาสนาอื่นล่ะ!! เขาจะไปหนแห่งไหน ต่อไป...
เขา : อยากจากโลกไปตอนนี้ หรือว่าเขาไปเพราะผลกรรม เขาไม่ต้องการมีชีวิตอีกแล้ว
เขา : โชคดีจัง! ที่ได้ไปพบเจอยังอีกภพ ภูมิอื่นๆ ที่อีกหลายคนยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน


เพื่อน! หากวันหนึ่งฉันตาย
แก แกจะมาเยี่ยมเยียนฉันไหม
แกจะยังจดจำบทกวีของฉันได้หรือเปล่า
แต่ไม่สำคัญหรอกกว่าแกจะลืมหรือจำ
เพียงแกสำเหนียกว่าฉันได้ตายไปแล้ว
เท่านี้ดวงตาฉันเอ่อล้นด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้งแล้ว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น