หิ่งห้อยโบยบินในความมืด ส่งแสงสว่างระยิบระยับทุกแห่งหน
ทุกคนจงอย่าได้มองข้ามแสงสว่างอันน้อยนิดของตน
หากสามารถเป็นผู้ให้ แสงสว่างนั้นจะโชติช่วงและเปี่ยมด้วยพลัง
ความหวังของพ่อแม่อยู่ที่ลูก
ความหวังของลูกอยู่ที่โรงเรียน
ความหวังของสังคมอยู่ที่คนที่มีความสามารถ
ความหวังของคนที่มีความสามารถอยู่ที่การศึกษา
การศึกษาคือแหล่งให้ความหวังทั้งปวง
พวกท่านอาจคิดสงสัยว่า เพราะเหตุใดมูลนิธิ “ฉือจี้” ที่อยู่ไต้หวันนั้น ทำไมจึงได้มาก่อตั้งโรงเรียนที่จังหวัดเชียงใหม่ในประเทศไทย อีกทั้งหนทางก็ไกลแสนไกล
มูลเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะเมื่อปี พ.ศ. 2537
เริ่มจุดประกายด้วยโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ทางภาคเหนือของไทยในระยะเวลา สามปี “ เมื่อสรรพสัตว์ยังต้องทนทุกข์ พระโพธิสัตว์จึงได้มาโปรดสัตว์ทั้งปวง ” ที่ได้นาบุญผืนนี้มาไถหว่าน คงจะต้องกล่าวย้อนไปในปี พ.ศ. 2537 มูลนิธิพุทธฉือจี้ในไต้หวัน ได้ทราบข่าวว่าความเป็นอยู่ของชาวเขาในภาคเหนือของประเทศไทยมีความลำบาก ลำเค็ญมากและต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน
เมื่อได้รับการขอร้องจากหลาย ๆ ฝ่าย ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนจึงได้ส่งคณะสำรวจมาประเทศไทยสองครั้งเพื่อสำรวจ ความทุกข์เข็ญของชาวเขา เพื่อเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น
จึง ได้เริ่มโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ทางภาคเหนือของประเทศไทยระยะเวลาสามปี โดยให้ความช่วยเหลือทางด้านการกุศล การรักษาพยาบาล การศึกษา และวัฒนธรรมตามลำดับ จากนั้นมามูลนิธิพุทธฉือจี้ในไต้หวันจึงมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองพุทธ อันเป็นที่มาของการจัดตั้งสาขามูลนิธิพุทธฉือจี้ในประเทศไทยขึ้นในเวลาต่อมา
“ โครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ทางภาคเหนือของประเทศไทยในระยะเวลาสามปี ” เริ่มในปี พ.ศ. 2538 งานทางด้านการกุศลนอกจากจะให้ความช่วยเหลือทางด้านค่าครองชีพและค่ารักษา พยาบาลแก่คนชราในสถานสงเคราะห์คนชราที่บ้านใหม่หนองบัว อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่และที่อำเภอผาตั้ง จังหวัดเชียงรายแล้ว ชาวฉือจี้ในประเทศไทยยังให้ความช่วยเหลือระยะยาว โดยเฉพาะการให้กำลังใจและความอบอุ่นแก่คนชราเหล่านั้นให้คลายความเหงาและ ความรู้สึกโดดเดี่ยว
ด้วยหลักการที่ว่า “ จะต้องมีที่พักพิงจึงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ มีที่อยู่อาศัยที่ถาวรจึงจะมีอาชีพที่ดีได้ ” การช่วยเหลือผู้ยากไร้ในอันดับแรกจึงต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อมและที่อยู่ อาศัยให้ดีขึ้น
หลังจากการประเมินการช่วยเหลือแล้วนั้น ได้จัดตั้งโครงการสร้างบ้านพักให้แก่หมู่บ้านที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารซึ่งจัด เป็นหมู่บ้านฉือจี้ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านห้วยหก บ้านมังกาลา บ้านใหม่ชางหลง และบ้านแม่สลัก รวมทั้งสิ้น 130 หลัง และสร้างถนนภายในหมู่บ้านและถนนที่เชื่อมต่อกับถนนสายหลัก รวมทั้งระบบประปา ระบบระบายน้ำและเดินสายไฟฟ้าเข้าหมู่บ้านเพื่อให้ชาวบ้านอยู่อย่างมั่นคง ถาวรและสามารถทำมาหากินได้อย่างสะดวก มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทางด้านการเกษตรกรรม ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเพาะปลูก แต่เนื่องจากความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างแร้นแค้น ผลผลิตต่ำ ทางมูลนิธิฯ จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาสาธิตและแนะนำวิธีการเพาะปลูกที่ถูกต้อง โดยตระเวนไปทุกหมู่บ้านเพื่อสาธิตและถ่ายทอดความรู้ทางด้านการเกษตรแก่ชาว บ้าน และจัดการสัมมนาทั้งภาคฤดูร้อนและฤดูหนาว ทางมูลนิธิฯ ยังได้แจกจ่ายต้นกล้าชาและผลไม้ให้แก่ฟาร์มผาแดงและชาวบ้านนำไปเพาะปลูก เพื่อเพิ่มรายได้
จุดประกายแห่งความหวังการจัดตั้ง “ โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ”
โรงเรียน “ ฉือจี้เชียงใหม่ ” ตั้งอยู่ที่บ้านปางผึ้ง หมู่ที่ 16 ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ 123 ไร่ รับนักเรียนจากทั่วประเทศ เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้วก็สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับ ปริญญาตรีทั้งในและต่างประเทศได้
การจัดตั้ง “ โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ”
โรงเรียน “ ฉือจี้เชียงใหม่ ” ตั้งอยู่ที่บ้านปางผึ้ง หมู่ที่ 16 ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ 123 ไร่ รับนักเรียนจากทั่วประเทศ เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้วก็สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับ ปริญญาตรีทั้งในและต่างประเทศได้
โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ จะยื่นขอจัดตั้งเป็นโรงเรียนประเภทโครงการใช้ภาษาจีนเป็นสื่อการสอน ส่วนวิชาภาษาไทย ประวัติศาสตร์ และวิชาสังคมจะสอนด้วยภาษาไทย และยังสอนภาษาอังกฤษด้วย นอกจากการสอนด้านวิชาความรู้แล้ว เน้นด้านเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต เพื่อให้นักเรียนมีปรัชญาชีวิตและค่านิยมที่ถูกต้อง
ให้นักเรียนรู้จักรักผู้อื่น สำนึกบุญคุณ เคารพชีวิต สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และมีจริยธรรม ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและมนุษยชาติ
โรเรียนฉือจี้เชียงใหม่ จะยื่นขอจัดตั้งเป็นโรงเรียนประเภทโครงการใช้ภาษาจีนเป็นสื่อการสอน ส่วนวิชาภาษาไทย ประวัติศาสตร์ และวิชาสังคมจะสอนด้วยภาษาไทย และยังสอนภาษาอังกฤษด้วย นอกจากการสอนด้านวิชาความรู้แล้ว เน้นด้านเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต เพื่อให้นักเรียนมีปรัชญาชีวิตและค่านิยมที่ถูกต้อง ให้นักเรียนรู้จักรักผู้อื่น สำนึกบุญคุณ เคารพชีวิต สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และมีจริยธรรม ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและมนุษยชาติ
วัตถุประสงค์ของโรงเรียน “ ฉือจี้เชียงใหม่ ”
1.ปลูกฝังให้รู้จักเคารพชีวิต ห่วงใยสังคม
2.ปลูก ฝังพรหมวิหารสี่ของพุทธศาสนา คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เสริม สร้างให้มีบุคลิกภาพของความจริงใจ ความยุติธรรม ความศรัทธาและความซื่อสัตย์
3.มุ่ง เน้นการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตเพื่อปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในครอบ ครัว ใฝ่หาความรู้ ปลูกฝังให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง ใฝ่หาความเจริญก้าวหน้า มีความรับผิดชอบและใฝ่ดี
3.มุ่ง เน้นการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตเพื่อปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในครอบ ครัว ใฝ่หาความรู้ ปลูกฝังให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง ใฝ่หาความเจริญก้าวหน้า มีความรับผิดชอบและใฝ่ดี
4.เพิ่มทักษะทางด้านภาษาไทย จีน อังกฤษ เพื่อให้มีโลกทัศน์ที่กว้างไกลก้าวสู่สังคมโลกและทำประโยชน์ให้แก่สังคมไทย
5.ใช้ทรัพยากรของโรงเรียนอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาครู การศึกษาผู้ใหญ่ การเรียนรู้ ด้านสุขอนามัยและการศึกษาของชุมชน
โรงเรียน “ฉือจี้เชียงใหม่” เป็นโรงเรียนแห่งแรกในต่างประเทศที่ทางมูลนิธิฯ เป็นผู้ดำเนินการเอง ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารเรียน เมื่อปี พ.ศ. 2544 และจะเปิดรับนักเรียนเข้าเรียนได้ในปีการศึกษา 2546 ในช่วงแรกจะเปิดรับนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 สองห้อง และชั้นมัธยมปีที่ 1 สองห้อง ห้องละ 30 คน
หวัง ว่าโรงเรียนแห่งนี้จะเป็นโรงเรียนต้นแบบของโรงเรียนของฉือจี้ที่จะไปจัดตั้ง ยังประเทศอื่นในโอกาสต่อไป ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารเรียนหรือการควบคุมดูแลด้านบุคลากรทางด้านครู ผู้สอนก็จะทำอย่างดีที่สุด
โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ แผนกประถมศึกษา ก็สร้างเสร็จเมื่อปลายปี พ.ศ.2547 และก็ได้เริ่มเปิดรับสมัครนักเรียนเมื่อปีการศึกษา พ.ศ.2548 นี่เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ฉือจี้ ก่อสร้างขึ้นในต่างประเทศ เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของฉือจี้ประทับไว้ในประเทศไทย
โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ แผนกประถมศึกษา ก็สร้างเสร็จเมื่อปลายปี พ.ศ.2547 และก็ได้เริ่มเปิดรับสมัครนักเรียนเมื่อปีการศึกษา พ.ศ.2548 นี่เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ฉือจี้ ก่อสร้างขึ้นในต่างประเทศ เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของฉือจี้ประทับไว้ในประเทศไทย
และโรงเรียนแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ในหัวใจ ของผู้คนที่ห่างไกลความเจริญและยากจน และจุดประกายความหวังแก่เด็ก ๆ ที่บริสุทธิ์ทั้งหลาย ปัจจุบันมีนักเรียนเข้าศึกษาเปิดถึงมัธยมศึกษาชั้นปีที่3 จำนวน 549 คน (ข้อมูลล่าสุดกุมภาพันธ์ 2554 )
จุดมุ่งหมายการศึกษาและจุดเด่น
1. อาศัยหลักธรรมะพรหมวิหารสี่ของพุทธศาสนา ปลูกฝังให้นักเรียนมีความรู้พร้อมพัฒนาด้านจิตใจและร่างกาย ปูพื้นฐานด้านคุณธรรม มนุษย์ศาสตร์ เสริมสร้างค่านิยมต่อชีวิตที่ถูกต้องและมีความอุสาหะวิริยะ
2. ฝึกสอนทักษะทางด้านภาษาไทย จีน อังกฤษ วิชาคอมพิวเตอร์และทักษะความรู้ด้านรักชื่นชมงาน
วัตถุประสงค์ของโรงเรียน “ ฉือจี้เชียงใหม่ ”
1.ปลูกฝังให้รู้จักเคารพชีวิต ห่วงใยสังคม
2.ปลูกฝัง พรหมวิหารสี่ของพุทธศาสนา คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เสริม สร้างให้มีบุคลิกภาพของความจริงใจ ความยุติธรรม ความศรัทธาและความซื่อสัตย์
3.มุ่งเน้น การเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตเพื่อปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในครอบ ครัว ใฝ่หาความรู้ ปลูกฝังให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง ใฝ่หาความเจริญก้าวหน้า มีความรับผิดชอบและใฝ่ดี
4.เพิ่มทักษะทางด้านภาษาไทย จีน อังกฤษ เพื่อให้มีโลกทัศน์ที่กว้างไกลก้าวสู่สังคมโลกและทำประโยชน์ให้แก่สังคมไทย
5.ใช้ ทรัพยากรของโรงเรียนอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาครู การศึกษาผู้ใหญ่ การเรียนรู้ ด้านสุขอนามัยและการศึกษาของชุมชน
ขณะ นี้โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ในประเทศไทยกำลังจะก่อกำเนิดขึ้นจากแรงศรัทธาของ พวกเราทั้งหลาย หวังว่าทุกท่านจะร่วมแรงร่วมใจช่วยให้เด็ก ๆ เหล่านี้ ได้มีความหวังที่จะมีอนาคตอันสดใสรุ่งเรือง ขอให้ทุกท่านจงช่วยกันรวบรวมเมตตาจิตและปัญญาเพื่อชุบชีวิตของเด็กเหล่านี้ ให้มีอนาคตที่ดี ขอเพียงให้ทุกท่านได้กรุณาให้ความอนุเคราะห์และเอื้ออาทรแก่เด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ให้มีอนาคตอันสวยสดงดงามต่อไป
ใช้ ความรักเป็นดินปุ๋ยใช้ความรู้ความสามารถมาเป็นคุณประโยชน์ “ฉือจี้”ให้ความสำคัญและฟูมฟักคนรุ่นหลังอย่างจริงจังนอกจากจะให้ทุนการ ศึกษาแก่ นักเรียนเรียนเก่งแต่ยากจนแล้วยังช่วยเหลือค่าอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน
จุดมุ่งหมายการศึกษาและจุดเด่น
2. ฝึกสอนทักษะทางด้านภาษาไทย จีน อังกฤษ วิชาคอมพิวเตอร์และทักษะความรู้ด้านรักชื่นชมงานศิลปะ
ท่าน ธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนเคยกล่าวไว้ว่า “ ความหวังของพ่อแม่อยู่ที่ลูก ความหวังของลูกอยู่ที่โรงเรียน ความหวังของสังคมอยู่ที่คนที่มีความสามารถ ความหวังของคนที่มีความสามารถอยู่ที่การศึกษา ดังนั้นการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่มีความหมายและความสำคัญอย่างยิ่ง ”
ขณะ นี้โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ในประเทศไทยกำลังจะก่อกำเนิดขึ้นจากแรงศรัทธาของ พวกเราทั้งหลาย หวังว่าทุกท่านจะร่วมแรงร่วมใจช่วยให้เด็ก ๆ เหล่านี้ ได้มีความหวังที่จะมีอนาคตอันสดใสรุ่งเรือง ขอให้ทุกท่านจงช่วยกันรวบรวมเมตตาจิตและปัญญาเพื่อชุบชีวิตของเด็กเหล่านี้ ให้มีอนาคตที่ดี ขอเพียงให้ทุกท่านได้กรุณาให้ความอนุเคราะห์และเอื้ออาทรแก่เด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ให้มีอนาคตอันสวยสดงดงามต่อไป
ใช้ ความรักเป็นดินปุ๋ยใช้ความรู้ความสามารถมาเป็นคุณประโยชน์ “ฉือจี้”ให้ความสำคัญและฟูมฟักคนรุ่นหลังอย่างจริงจังนอกจากจะให้ทุนการ ศึกษาแก่ นักเรียนเรียนเก่งแต่ยากจนแล้วยังช่วยเหลือค่าอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน
จุดมุ่งหมายการศึกษาและจุดเด่น
1. อาศัยหลักธรรมะพรหมวิหารสี่ของพุทธศาสนา ปลูกฝังให้นักเรียนมีความรู้พร้อมพัฒนาด้านจิตใจและร่างกาย ปูพื้นฐานด้านคุณธรรม มนุษย์ศาสตร์ เสริมสร้างค่านิยมต่อชีวิตที่ถูกต้องและมีความอุสาหะวิริยะ
2. ฝึกสอนทักษะทางด้านภาษาไทย จีน อังกฤษ วิชาคอมพิวเตอร์และทักษะความรู้ด้านรักชื่นชมงานศิลปะ
3. จำนวนนักเรียนที่เปิดรับสมัคร
ป.1 สองห้อง ห้องละ 30 คน รวม 60 คน ชาย-หญิง
ป.4 สองห้อง ห้องละ 30 คน รวม 60 คน ชาย-หญิง
ความรักที่ค่อย ๆ สะสมทีละเล็กทีละน้อย
จะสามารถเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่
เพื่อพัฒนาบุคลากร ให้เป็นผู้ที่มีความสามารถของสังคม
บริจาคเงินช่วยเหลือในส่วนของโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่
ชื่อบัญชี โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่
บัญชีประเภท ออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 215-0-771810
เนื่องจากการบริจาคเงินช่วยเหลือในส่วนของ โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ แบ่งการช่วยเหลืออย่างชัดเจน กรณีที่ท่านบริจาคด้วยกำลังทรัพย์ขอความกรุณาผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ระบุประเภทในการบริจาคเงินส่วนต่างๆ และเรียกรับใบเสร็จรับเงินที่ท่านบริจาคทันทีจากเจ้าหน้าที่ หรืออาสาสมัคร หลังการโอนเงินเข้าบัญชี กรุณาเก็บสลิปใบโอนเงิน ส่งแฟกซ์พร้อมระบุ ชื่อ-ที่อยู่ ที่จะให้ออกใบเสร็จ เพื่อขอบคุณท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
รายละเอียดบริจาคเงินช่วยเหลือส่วนต่างๆ ดังนี้
บริจาคเพื่อการสนับสนุนการศึกษา ดังนี้
- จัดหาหรือจัดสร้างอาคารเรียน พร้อมที่ดิน หรือที่ดิน เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา
- จัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา
- จัดหาครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา หรือเป็นทุนการศึกษาการประดิษฐ์ การพัฒนาการค้นคว้า หรือการวิจัย
เงินบริจาคอื่นๆ
ร่วมบริจาคทุนการศึกษา
เงินสด
- บริจาคได้ที่โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ที่ตั้ง 253 บ้านปางผึ้ง ม.16 ต.เวียง อ.ฝาง
จ.เชียงใหม่ ในเวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 08.30 – 16.00 น. โทรศัพท์ 053 -382026-7โทรสาร 053-383059
บริจาคได้ที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย สำนักงานใหญ่ ในเวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ เวลา 08.30 -17.30 น.
หรือบริจาคผ่านทางอาสาสมัครของมูลนิธิ
เช็ค
กรุณาสั่งจ่ายเช็คในนาม โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ หรือ TZU-CHI CHIANGMAI กรุณาขีดคร่อมเช็คเพื่อนเป็นการนำเข้าบัญชีของโรงเรียนเท่านั้น
หมายเหตุ กรุณาระบุว่า ร่วมบริจาคเข้าโครงการสงเคราะห์เพื่อการศึกษาหรือกองทุนเพื่อการศึกษา จากนั้นจึงส่งโทรสารสำเนาการโอนพร้อมชื่อ-สกุลและที่อยู่ มายังสำนักงานมูลนิธิฯ ที่หมายเลข 02-642-1890 เพื่อสะดวกในการจัดส่งใบเสร็จแก่ท่านต่อไป (ใบเสร็จนี้สามารถนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้)
จำนวน มากที่ฐานะทางครอบครัวยากจน ผู้ปกครองไม่สามารถส่งเสียค่าเล่าเรียนแก่บุตรหลานจนสำเร็จการศึกษาได้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องอาศัยเมตตาจิตของผู้ใจบุญในสังคมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ร่วมอุปถัมภ์สงเคราะห์เยาวชนเหล่านี้ให้มีโอกาสเล่าเรียนจนสำเร็จการศึกษา
คำถาม
ตอบลบทางโรงเรียนมีโครงการรับนักเรียนในชั้นมัธยมหรือไม่ เมื่อใด
ลูกชายกำลังเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดม "ภาคเหนือ" ในเดือนสิงหาคม 2555 จะเดินทางไปเรียนชั้น มัธยมปีที่ 5 ที่ประเทศจีน (ไต้หวัน) ตามโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างสโมสรโรตารีไต้หวันและไทย ทุนมีระยะเวลาเพียงหนึ่งปี
จึงคิดว่าเมื่อกลับมาอยากให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนที่มีลักษณะใกล้เคียงกับการเรียนที่ไต้หวัน
ถามว่าทางโรงเรียนจัดช้นเรียนถึง มัธยมปีที่ 6 หรือไม่ ? ระเบียบการเป็นอย่างไร ? เดชา ปัทมสิริวัฒน์ 115 ม.1 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก 65130 โทรศัพท์ 081 - 887 - 7980 EMAIL:d0818877980@gmail.com